วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

GT 200 กับการเล่นหุ้น



เรื่องราวของเครื่องตรวจจับระเบิดที่ชื่อว่า GT 200 ซึ่งมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าไม่สามารถตรวจระเบิดได้จริงแต่คนที่ ใช้เองก็ยังยืนยันว่าใช้ได้ผลและจะยังใช้ต่อไปตราบที่ยังไม่มีเครื่องมือ อื่นมาทดแทนนั้น   ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด  เพราะว่าที่จริงเรายังมีเรื่องอื่น ๆ  อีกมากที่คนมีพฤติกรรมแบบเดียวกับเรื่องของ GT 200 แม้ว่ารายละเอียดจะต่างกัน

สมัยหนึ่งเมื่อโรคเอดส์เพิ่งจะโด่งดังและมีผู้คนเป็นกันมาก  เราก็มียาซึ่งอ้างว่าทำจากสมุนไพรและเป็นสูตรลับซึ่งผู้ผลิตบอกว่าสามารถ รักษาคนที่เป็นให้หายได้อย่างน่ามหัศจรรย์  ผู้คนแห่กันไปขอซื้อมาใช้กันอย่างล้นหลาม   แต่ต่อมาก็มีการพิสูจน์โดยวิชาการแพทย์มาตรฐานว่าเป็นยาที่ใช้ไม่ได้  อย่างไรก็ตาม  ช่วงนั้นคนที่เป็นเอดส์จำนวนมากก็ยังยืนยันที่จะใช้อยู่

เรื่องยารักษาโรคเอดส์นั้นก็เป็นเพียงอีกเรื่องหนึ่งที่มาแล้วก็หายไป เช่นเดียวกับเรื่อง ยามหัศจรรย์ของ  ป้าเช็งที่นอกจากไม่สามารถรักษาให้โรคหายแล้ว  บางรายยังมีปัญหารุนแรงขนาดทำให้ตาบอดได้   อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้ผมคิดว่าถ้าเปิดขายก็น่าจะยังมีคนมาซื้อไปใช้อยู่

เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นนั้น  ผมคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปมันก็คงจะล้มหายไป   แต่ยังมีเรื่องทำนองแบบนี้อีกมากที่จะยังอยู่กับเราไปเรื่อย  ตัวอย่างที่ชัดเจนก็น่าจะรวมถึงการ  ดูหมอ  โดยเฉพาะหมอดัง ๆ  อย่างหมอดู อีทีที่พม่า  เรื่องของความมหัศจรรย์ของเทคนิคในการสร้างพลังทางจิตใจหรือใช้ความคิดที่จะ ทำให้เราประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่หรือแก้ปัญหาที่รุนแรงบางอย่างได้เป็น อีกเรื่องหนึ่งที่มีมาอยู่เรื่อย ๆ พร้อมกับชื่อที่เปลี่ยนไป  และสุดท้ายที่เกี่ยวกับหุ้นก็คือ  สูตรหรือเครื่องมือในการเล่นหุ้นที่จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเช่น  เครื่องมือ  ทางเทคนิคหรือการวิเคราะห์ทางเท็คนิค  หรือการใช้กฏเกณฑ์แน่นอนที่อิงกับข้อมูลพื้นฐานของกิจการแนว VI  มาทำการซื้อหรือขายหุ้นที่เรียกว่า  Mechanical Rule เพื่อทำกำไรมากกว่าปกติ  เหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นและดังเป็นระยะ ๆ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ประสิทธิผลของสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์

คำถามก็คือ  ทำไมคนจึงยังยืนยันที่จะใช้เครื่องมือหรืออะไรก็แล้วแต่ทั้ง ๆ  ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ว่ามันใช้ได้ผล   หรือบางเรื่องมีการพิสูจน์ที่เป็นวิทยาศาสตร์แล้วว่ามันใช้ไม่ได้ผล  ต่อไปนี้คือคำอธิบายของผมที่จะบอกว่า   เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร  ถ้าจะเกิดขึ้นมันมักจะต้องมีเงื่อนไขอย่างไรเพื่อที่ว่า  เมื่อมันเกิดขึ้น   เราจะได้  รู้ทัน  และไม่ตกเป็นเหยื่อของมัน

ข้อแรก  มันมักเป็นเรื่องที่มี  การได้เสียสูง  เช่นเป็น  ความเป็นความตาย  เรื่องของระเบิดและเรื่องของโรคเอดส์เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน  เรื่องของหมอดูอีทีนั้นถ้าเป็นเรื่องของ นักปฏิวัติ  ก็ชัดเจนว่าเป็นเรื่องใหญ่ได้เสียสูงสำหรับคนทำ  และสุดท้ายก็เรื่องของการเล่นหุ้นซึ่งก็ ได้เสียสูงในแง่เงินทอง  ดังนั้น  คนต้องหาทางแก้ปัญหาหรือลดความเสี่ยงในทุกทางที่ทำได้  แม้ว่าสิ่งนั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์หรือแม้แต่พิสูจน์แล้วแต่การพิสูจน์ นั้นก็  อาจจะผิด  ก็ได้  เหนือสิ่งอื่นใดสำหรับคนไทยที่มักจะเชื่อเรื่องของไสยาศาสตร์แล้ว  เขาก็มักจะคิดว่า  ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่บางทีอาจจะมีสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้ก็ได้

ข้อสอง  สิ่งมหัศจรรย์  นั้นเกิดขึ้นกับคนบางคนหรือเกิดขึ้นในบางครั้ง  และแน่นอน  คนเอาไปพูดต่อกันมากเป็นที่โจษจัน  เช่น  เครื่องสามารถชี้จุดที่อยู่บนคานหลังคาแล้วพบว่ามีระเบิดจริง ๆ  หรือ  คนเป็นโรคเอดส์อยู่แต่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อหลังจากกินยาไปได้ไม่นาน  หรือ  หุ้นวิ่งไปไกลมากหลังจากทะลุ  “Golden Cross”  แต่สิ่งที่  ไม่มหัศจรรย์  ที่อาจจะมีมากกว่ามากนั้น   เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครพูดถึงหรือพูดถึงน้อยมาก  นั่นก็คือ คนเอาไปใช้แล้วไม่เกิดผลอะไรเลย  แต่คนเหล่านั้นอาจจะคิดว่าเขาใช้มันผิดวิธี  หรือยานั้นอาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคนขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน  และเหตุผลอีกร้อยแปด  พูดง่าย ๆ  เขาคิดว่าเขาเป็นข้อยกเว้น  ในขณะที่เครื่องมือหรือยานั้นเป็นสิ่งที่ใช้ได้จริง

สุดท้าย  เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมีคนได้ประโยชน์  โดยเฉพาะที่เป็นการได้เงินจากการขายสินค้าหรือเครื่องมือที่ใช้การไม่ได้ จริงเหล่านั้น  ในบางเรื่องก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีคนได้ประโยชน์อะไร  เป็นเรื่องบอกให้  เอาบุญ  แต่ถ้าวิเคราะห์หรือมองให้ลึกซึ้งลงไปก็จะมีคนได้ประโยชน์ทางอ้อมอยู่ไม่ น้อย

ในฐานะของ VI นั้น  เราจะต้องตระหนักว่าในโลกและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทยนั้น   เราจะพบกับสถานการณ์แบบ “TG 200อยู่เรื่อย ๆ  หน้าที่ของเราก็คือ  พิจารณาอย่างลึกซึ้งด้วยเหตุผล  ประเด็นสำคัญก็คือ  ถ้าเป็นเรื่องของเราเองนั้น  จะต้องมั่นใจว่าเราจะไม่ตกเป็นเหยื่อหรือเดือดร้อนในการที่จะใช้มัน  เรื่องที่เป็นรูปธรรมที่สุดในฐานะนักลงทุนนั้น  แน่นอน  ก็คือเรื่องของเท็คนิคที่ใช้ในการลงทุนที่มักจะมีการอ้างว่าใช้ได้ผลโดย เพียงแต่ดูเส้นอะไรบางอย่างและไม่ต้องวิเคราะห์อะไรอย่างอื่นอีก  แบบนี้เราอาจจะต้องระวังว่าถ้าเราใช้มันโดยที่จริง ๆ  แล้วมันใช้ไม่ได้  โอกาสก็อาจจะเหมือนกับการใช้ GT 200 ในดงระเบิด  นั่นคือ  เราขาดทุนไม่เป็นท่า

ในอีกด้านหนึ่ง  ถึงแม้ว่าเครื่องมือมันจะใช้ไม่ได้ผล  แต่เราก็อาจจะไม่เสียอะไรมากในการใช้มัน   หรืออาหารเสริมบางอย่างที่อาจจะไม่ให้ผลอะไรเลยกับร่างกายแต่โทษก็ไม่มีอะไร ยกเว้นว่าจะเสียเงินบ้าง   แบบนี้  การใช้ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราเสียหายหนัก   ว่าที่จริง  ส่วนตัวผมก็กินยาหรืออาหารเสริมหลายอย่างที่อาจจะไม่มีผลอะไรเลยแต่ก็ยังกิน อยู่  เหตุผลก็คือ  สุขภาพนั้น  เป็นเรื่องที่มีการ ได้เสียสูง  และผมเคยอ่านหรือพบว่าการกินยานั้น  ก่อให้เกิด  สิ่งมหัศจรรย์ขึ้นกับคนบางคน   เหนือสิ่งอื่นใด  ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการกินยาหรืออาหารเสริมนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียอะไร ยกเว้นต้องจ่ายเงินซื้อ  ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับสุขภาพของผม  ดังนั้นผมจึงกิน   แต่สำหรับเรื่องการลงทุนแล้ว  ผมไม่ยอมใช้อะไรที่ผมไม่เชื่อว่าจะใช้ได้  เพราะความเสียหายหรือต้นทุนนั้นสูงมาก

20  กุมภาพันธ์  2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น