วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หนทางสู่ความสำเร็จในการลงทุน


นักลงทุนหรือคนเล่นหุ้นที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนนั้นผมคิดว่าเขาน่าจะมีวิธีการและ/หรือคุณสมบัติที่สำคัญอย่างน้อย 3-4  อย่างดังที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้

ข้อแรก คือ  เขาจะต้องมี  ความรอบรู้  ความฉลาดหลักแหลม  ความสามารถในการวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคตของธุรกิจต่าง ๆ  หลายอย่าง   คนที่เก่งมาก ๆ  ในด้านนี้มักจะได้รับการยอมรับว่าเป็นคนอัจฉริยะในด้านของการลงทุน  หลาย ๆ คนมักจะเป็นคนที่มี IQ ค่อนข้างสูง

ข้อสอง  เขาจะต้องทำงาน  เป็นคนขยันไม่เกียจคร้าน  โดยเฉพาะที่เป็นงานเกี่ยวกับการลงทุน   การหมั่นค้นคว้าหาโอกาสในการลงทุน   ต้องเป็นคนที่อ่านหนังสือมาก   คนที่ทำงานมาก ๆ  เป็น  Workaholic  หรือคนบ้างาน  ก็จะมีโอกาสได้รู้จักและเข้าใจบริษัทจดทะเบียนต่าง     เป็นอย่างดี  ซึ่งจะเป็นพื้นฐานและข้อมูลสำคัญสำหรับการลงทุนที่จะประสบความสำเร็จ  คนที่สามารถทำงานหนัก    ได้มากนั้น   นอกจากจะต้องเป็นคนหนุ่มสาวและมีสุขภาพดีแล้ว   เขามักจะต้องมี  Passion หรือความหลงใหลในการลงทุนที่รุนแรงด้วย

ข้อสาม  เขาจะต้องมี  EQ  หรือความสามารถทางอารมณ์ที่จะควบคุมตนเองไม่ให้ผันผวนไปตามภาวะของตลาดและราคาหุ้น  มีความสามารถที่จะคิดได้อย่างเป็นอิสระด้วยตนเอง  และสามารถปฏิบัติตามแผนและนโยบายที่ได้วางไว้อย่างมั่นคง

ข้อสี่   เขาจะต้องมีความเข้าใจหรือมี  Sense  หรือ  ความรู้สึกหรือไหวพริบเกี่ยวกับภาวะของผู้คนและนักลงทุนในตลาด   Sense  นี้เป็นเรื่องยากที่จะสอนกัน   แต่การลงทุนมานานผ่านร้อนผ่านหนาวมามากก็ช่วยให้เรามี  Sense ดีขึ้นได้ 

คุณสมบัติทั้งสี่ข้อนี้   ผมคิดว่านักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวต้องมี   อย่างไรก็ตาม   เป็นเรื่องยากที่คน ๆ  หนึ่งจะมีคุณสมบัติดีเด่นในทุกข้อ   โดยปกติแล้ว   นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีคุณสมบัติข้อหนึ่งข้อใดหรือสักสองข้อที่เด่น   และมีคุณสมบัติในข้อที่เหลือพอใช้    แบบนี้เขาก็จะประสบความสำเร็จได้    ว่าที่จริง   เซียน  หรือคนที่ประสบความสำเร็จมากนั้น   มักจะมีคุณสมบัติยอดเยี่ยมมาก ๆ  จริง    เพียงบางข้อเท่านั้น   และนั่นยังเป็นการแบ่งแยกด้วยว่าเขาเป็น  เซียน  ประเภทไหน

คนที่อาศัยความรอบรู้หรือ  IQ  ทางการลงทุนเป็นหลักมักจะเป็น  เซียน  ระดับอัจฉริยะที่มักจะประสบความสำเร็จสูงและมีชื่อเสียงยาวนาน   ตัวอย่างก็แน่นอน   ประเภท   วอเร็น  บัฟเฟตต์   บิล  มิลเลอร์   จอห์น  เทมเปิลตัน  คนเหล่านี้จะมีความคิดและความเข้าใจลึกซึ้งมากในด้านของการลงทุนและของกิจการ   พวกเขาจะสามารถมองเหตุการณ์ไปข้างหน้าได้ไกลกว่าและถูกต้องกว่า   และลงทุนซื้อหุ้นจำนวนมากเพื่อรอเก็บเกี่ยวผลในระยะยาวซึ่งผลการลงทุนนั้นมักจะประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง     นักลงทุนทั่วไปมักจะชื่นชมและยกย่องพวกเขา  หลังจาก  เห็นผลแล้ว   แต่ในขณะที่พวกเขากำลังซื้อหุ้นนั้น   เรามักจะแปลกใจและคิดว่าพวกเขากำลังคิดผิด   เราไม่อยากซื้อหุ้นตามพวกเขาเพราะเรามองว่าหุ้นที่พวกเขากำลังซื้อนั้นดูไม่น่าจะดีและเราไม่เข้าใจว่าเขาซื้อทำไม

คนที่อาศัยความขยันทำงานหนักเป็นหนทางสู่ความสำเร็จนั้น    คือคนที่อาจจะเข้าสำนักงานตั้งแต่เช้าตรู่และกลับบ้านเมื่อตะวันลับฟ้าไปแล้ว  พวกเขาต้องอ่านบทวิเคราะห์เป็นสิบ     เล่มในแต่ละสัปดาห์และต้องเข้าประชุมฟังการบรรยายของบริษัทจดทะเบียนเกือบจะทุกวัน   เวลาที่ว่างจากการอ่านพวกเขาก็มักจะต้องพูดโทรศัพท์เพื่อหาข้อมูลที่จะนำไปสู่ชัยชนะในการลงทุน    หลังเลิกงานพวกเขายังต้องหอบแฟ้มกลับไปทำที่บ้าน   วันหยุดก็มักจะไม่เป็นวันหยุดอย่างที่ควรเป็น   แน่นอน   ผมกำลังพูดถึงคนจำนวนมากหรือส่วนใหญ่ที่ทำหน้าที่บริหารกองทุนรวมที่ต้องติดตามบริษัทเป็นร้อย     แห่งหรืออย่างในสหรัฐนั้นเป็นพัน ๆ  แห่ง   คนเหล่านี้ส่วนใหญ่กลับไม่ประสบความสำเร็จเพราะพวกเขาต่างก็ขยันและทำงานหนักพอ ๆ   กัน   คนที่ประสบความสำเร็จสูงมากในกลุ่มนี้ก็คือ   ปีเตอร์  ลินช์  ที่สุดท้ายต้องลาเวทีไปก่อนเกษียณเนื่องจากรับกับการทำงานแบบนั้นไม่ไหว

คนที่อาศัย  EQ  เป็นหลักในการประสบความสำเร็จนั้น   คือคนที่มีศรัทธายึดมั่นในหลักการและนโยบายการลงทุนที่ตนเองเห็นว่าดีและเหมาะกับตนเองแล้ว   นโยบายและกลยุทธ์เหล่านั้นอาจจะไม่ใช่หนทางที่ทำให้เขารวยเร็วที่สุดแต่อาจจะปลอดภัยและให้ผลตอบแทนคุ้มค่า   เขาเชื่อมั่นว่าถ้าเขายึดหลักการที่กำหนดไว้ดีแล้วนั้น   ในระยะยาวเขาก็จะบรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จได้   ตัวอย่างเช่น  เขาอาจจะกำหนดว่าเขาจะลงทุนแบบสะสมเงินที่หาได้จากการทำงานไปเรื่อย     ทุกเดือน  โดยแบ่งเงินลงทุนไปในหุ้นและพันธบัตรเท่า ๆ  กัน  โดยที่หุ้นลงทุนอาจจะเป็นหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในแต่ละอุตสาหกรรมหลัก     ห้าบริษัทเป็นต้น   และการลงทุนนี้จะเป็นการลงทุนตลอดเวลาไม่ว่าภาวะตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร   

ตัวอย่างของคนที่ใช้  EQ  เป็นหลักและประสบความสำเร็จสูงมากก็คือ  คนธรรมดา  ที่ชื่อว่า    แอนน์  ไชเบอร์  ซึ่งผมเคยเขียนมานานแล้ว   เธอเป็นสาวโสดที่ไม่เคยแต่งงาน   อยู่ตัวคนเดียว   ไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ   เป็นคนกินเงินเดือนที่ไม่มีทรัพย์สมบัติ    เริ่มลงทุนเมื่ออายุ  50 ปีไปแล้ว   เธอยึดมั่นลงทุนในบริษัทที่เธอเห็นว่าเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่อย่างเช่น   โค๊ก  ถือยาว  ติดตามผลการดำเนินงาน   รับปันผล   ลงทุนเพิ่ม   วันที่เธอเสียชีวิต  พอร์ตของเธอเกือบ  พันล้านบาท  เธอทำได้เพราะอายุวันตายประมาณ  100  ปี

คนที่ใช้  Sense  ในการลงทุนเป็นหลักแล้วประสบความสำเร็จนั้น   ผมคิดว่าส่วนใหญ่ก็คือคนที่เราเรียกว่า   ขาใหญ่   ในตลาดหุ้น    แน่นอน  ขาใหญ่ในตลาดหุ้นไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน   หลายคนก็ขาดทุนหรืออยู่ไม่นาน   คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น  ผมคิดว่าพวกเขาต้องมีคุณสมบัติข้ออื่น ๆ  ดังที่กล่าวข้างต้นด้วย   แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จก็คือ  ความสามารถในด้านของจิตวิทยาการอ่านใจนักเล่นหุ้นในตลาดได้ดีกว่าคนอื่น   นอกจากการอ่านเกมออกแล้วพวกเขายังน่าจะมีความสามารถในการจูงใจให้คนอื่นเล่นตามด้วย   และนี่อาจจะเป็นศาสตร์ที่คนอื่นไม่สามารถทำได้และทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จสูงมากในการลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทย

ทั้งหมดนั้นก็คือหนทางสู่ความสำเร็จในการลงทุน  4  แบบ  นักลงทุนแต่ละคนต้องเลือกว่าวิธีไหนที่เราชอบและมีศักยภาพที่สามารถทำได้   การค้นหาตัวตนก่อนที่จะเลือกเดินทางนั้นสำคัญมาก  เลือกถูกก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว   เลือกผิดเราอาจจะพบกับความผิดหวังหรือหายนะ   สำหรับคน  กลาง ๆ   ผมแนะนำว่าแนวทางของการใช้  EQ  เป็นหลักในการลงทุนเป็นวิถีทางที่น่าสนใจ  และย้ำอีกครั้ง  ไม่ว่าจะเลือกแนวไหน  เราจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจทุกทางด้วยมิฉะนั้นก็จะไม่ประสบความสำเร็จ


16  มีนาคม  2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น