วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แนวรบด้านตะวันออก


การลงทุนนั้น  ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับการทำสงคราม  เพียงแต่เป็นสงครามทางการเงินที่ไม่มีการเสียเลือดเนื้อและชีวิต   สิ่งที่จะเสียก็คือเงินถ้าเรา  แพ้สงคราม   ตรงกันข้าม  เราจะได้เงินถ้าเรา  ชนะสงคราม  เราในฐานะของนักลงทุน  ถ้าจะเปรียบก็คือ   แม่ทัพ  สิ่งที่เราต้องทำก็คือ  การวางยุทธศาสตร์สงคราม   นั่นก็คือ  การตัดสินใจในการ  วางกำลัง  ซึ่งก็คือการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวและจัดเป็นพอร์ตโฟลิโอซึ่งก็จะคล้าย    กับการจัดกองทัพเป็นหลาย ๆ  กองที่จะทำให้สามารถชนะสงครามได้

ผมคงไม่พูดถึงการจัด  กองทัพหุ้น  เพื่อเอาชนะสงครามในวันนี้   เหตุผลก็เพราะว่าคนที่ลงทุนในวันนี้ต่างก็กำลังอยู่ในภาวะที่กำลังจะ   แพ้สงคราม  คือขาดทุนกันมากมาย   ถ้าเปรียบไปก็เหมือนกับการที่ข้าศึกกำลังรุกรบเข้ามาด้วยพลังการยิงมหาศาล    เรากำลังจะพ่ายแพ้   ประเทศกำลังใกล้จะถูกยึดครอง  ทหารล้มตายกันมาก   เรามีทางเลือกสองทางคือ  หนึ่ง   ถอยเพื่อตั้งหลักใหม่   หรือ   สอง  สู้ต่อเพื่อรอให้สถานการณ์เปลี่ยนแล้วกลับมารบชนะในที่สุด  พูดง่าย     ในสถานการณ์ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและหุ้นที่เราถืออยู่ตกลงมามากมายแบบนี้    เราควรล้างพอร์ตและเก็บเงินที่ยังพอเหลืออยู่ไว้เพื่อกลับมาลงทุนต่อในภายหลัง    หรือ   ยังคงถือหุ้นเกือบทั้งหมดไว้ในพอร์ตเพื่อหวังว่าราคาหุ้นจะตีกลับมาเมื่อสถานการณ์ตลาดหุ้นฟื้นตัว

ผมอยากจะยกบทเรียนจากสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อให้ข้อคิดกับการที่เราจะสู้หรือจะถอยในการลงทุนเมื่อเราประสบกับการสูญเสียอย่างหนัก     มันเป็นศึกสองครั้งที่นักประวัติศาสตร์สงครามต้องจารึกว่าเป็นการตัดสินใจที่มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิถีของสงคราม   นั่นคือ  ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่งกำลังจะแพ้   กลายเป็นผู้ชนะสงครามในท้ายที่สุด

ศึกแรกก็คือการถอยของกองทัพเคลื่อนที่เร็วของอังกฤษที่ส่งไปช่วยป้องกันฝรั่งเศษที่ชายหาดเมืองดังเคิร์ก  หรือที่เรียกว่า  ปฎิบัติการไดนาโม  นี่คือยุทธการที่เกิดขึ้นเมื่อกองทัพเยอรมันได้ใช้   ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ  รุกรบจนสามารถยึดฝรั่งเศษได้อย่างรวดเร็วและตัดขาดกองกำลังของฝ่ายพันธมิตรออกเป็นส่วน ๆ   กองทัพเคลื่อนที่เร็วของอังกฤษตัดสินใจหนีจากการปิดล้อมและอพยพกำลังพลทั้งหมดออกทางชายหาดดังเคิร์ก    ภายในเวลาเพียงประมาณ  10 วัน  กอง กำลังทหารกว่าสามแสนนายก็สามารถข้ามช่องแคบอังกฤษกลับสู่ประเทศได้โดยทิ้ง สัมภาระและอาวุธยุทโธปกรณ์เกือบทั้งหมดรวมทั้งเครื่องบินและเรือที่ถูกทำลาย เกือบสองร้อยลำ

ยุทธการไดนาโมนั้น  แน่นอน  เกิดการสูญเสียมหาศาล  อย่างไรก็ตาม   การ ถอยหนีอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่ากำลังพ่ายแพ้ก็ทำให้อังกฤษสามารถรักษาชีวิต ทหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการรบดีที่สุดเอาไว้ได้    กำลังทหารจำนวนกว่าห้าแสนนายที่หนีกลับอังกฤษได้ในยุทธการไดนาโมนั้น   ในช่วงต่อมาของสงคราม   ได้กลายเป็นกองกำลังหลักและเป็นนายทหารที่คุมกำลังทหารรุ่นใหม่ ๆ  เข้าสู้รบกับฝ่ายอักษะอย่างสามารถอาจหาญและเป็นฝ่ายชนะสงครามในที่สุด

ในการลงทุนนั้น   ถ้าเราวิเคราะห์ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายมากและโอกาสที่จะฟื้นตัวยังยาวไกลหรือมองไม่เห็น    ทันทีที่เห็นสัญญาณ  สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ  รีบหนี   รักษาเงินที่ยังเหลืออยู่ค่อนข้างมากเอาไว้  อย่าปล่อยให้การลงทุน  สลายไปต่อหน้า

ศึกที่สองคือปฏิบัติการ  Barbarossa  ของเยอรมันที่รุกรบเข้าไปเพื่อยึดครองรัสเซียหลังจากยึดครองฝรั่งเศษและยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่ไว้ได้แล้ว    และนี่คือสิ่งที่คนชอบเรียกกันว่า แนวรบด้านตะวันออก    นี่คือการศึก  แห่งศตวรรษ  ที่มีการสู้รบที่รุนแรงและโหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์   ฝ่ายอักษะสามารถรุกไปประชิดเมืองหลวงคือมอสโกและเมืองหลักอีกสองเมืองคือ  เลนินกราดทางเหนือ   และสตาลินกราดทางใต้ได้อย่างรวดเร็ว   ว่ากันว่าทหารเยอรมันสามารถมองเห็นยอดปราสาทในเมืองแล้ว   ความพ่ายแพ้ของรัสเซียดูเหมือนจะ   ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

แต่รัสเซียไม่ถอย   สตาลินสั่งให้ทหารสู้ตาย   ไม่ใช่แค่นั้น  เขาประกาศว่า  ถ้าทหารคนไหนยอมแพ้เขาจะกลายเป็นคนทรยศต่อประเทศ   ลูกของเขาจะถูกลดปันส่วนอาหาร   และพ่อแม่จะถูกส่งไปเข้าค่ายกักกันในไซบีเรีย   และถ้าตัวเชลยสงครามหนีรอดกลับมาได้เขาก็จะถูกจับเข้าค่ายทำงานหนักหรือถูกยิงทิ้งทันที   ดังนั้น  การรบในแนวรบด้านตะวันออกโดยเฉพาะการรบในเมืองสตาลินกราดจึงดุเดือดและรุนแรงมากที่สุดและกลายเป็น   การศึกแห่งศตวรรษ

และแล้ว   ก่อนที่เมืองหลวงและเมืองหลักของรัสเซียจะแตกเพียงไม่กี่วัน   หิมะก็ตกลงมาอย่างหนัก   อาวุธหนักโดยเฉพาะรถถังและทหารเยอรมันต้องหยุดลง   กองทัพเยอรมันที่ไม่ได้เตรียมสำหรับอุณหภูมิที่ติดลบหลายสิบองศาของรัสเซียต้องต่อสู้กับความหนาวเหน็บอย่างทรมาน  ในเวลาเดียวกัน   รัสเซียมีเวลาเตรียมตัวและเสริมกำลังคนและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปรับมือกับกองทัพเยอรมันอย่างเต็มกำลัง   กองทัพทั้งสองฝ่ายยันกันเป็นเวลานานเป็นปี ๆ  โดยที่รัสเซียแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ   และฝ่ายอักษะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ  ทั้งจากการรบกับรัสเซียและฝ่ายสัมพันธมิตรที่รุกเข้ามาทางด้านตะวันตก   จนในที่สุดรัสเซียก็กลายเป็นฝ่ายรุกและเข้ายึดกรุงเบอร์ลินในที่สุด

การรบในแนวรบด้านตะวันออกสอนบทเรียนในการลงทุนให้เราว่า   ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด   แต่เราเห็นแล้วว่าสถานการณ์ในที่สุดจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น  เราจะต้องยืนหยัดลงทุนต่อไป   การถอนตัวจากตลาดจะเป็นหายนะที่แท้จริง      เฉก เช่นกับการที่สตาลินรู้ว่าฤดูหนาวที่โหดร้ายกำลังมาและการยันกำลังของ เยอรมันไม่ให้เข้าเมืองที่จะสามารถหลบหนาวในอาคารได้จะทำให้ทหารเยอรมันต้อง ติดกับหิมะในพื้นที่โล่ง   และนั่นจะทำให้สถานการณ์การรบเปลี่ยนแปลงไป    รัสเซียจะต้องเป็นฝ่ายชนะในท้ายที่สุด

ที่เขียนมาทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะแนะนำให้นักลงทุนยืนหยัดลงทุนในหุ้นเต็มที่ในสภาวการณ์เศรษฐกิจวิกฤติในขณะนี้   แม้ผมเองจะเชื่อว่า  การรบรอบนี้เป็น   แนวรบด้านตะวันออก  ที่ผมจะยืนหยัดต่อสู้และหวังว่าจะชนะเมื่อเวลาผ่านไปอีกสองสามปี   การลงทุนนั้น  ทุกคนจะต้องเป็น   แม่ทัพ   เอง   ไม่มีใครทำแทนได้   ตัดสินใจถูกก็ชนะ   ตัดสินใจผิดก็พ่ายแพ้   ไม่ตัดสินใจก็คือการตัดสินใจ   ขอให้สนุกกับการทำสงครามที่ไม่มีการเสียเลือดเนื้อครับ                     


20  เมษายน  2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น