ราชาของตลาดหุ้นเกิดใหม่คนหนึ่งของโลกในยามนี้คงหนีไม่พ้นชื่อของ Mark Mobius ผู้บริหารกลุ่มกองทุน Franklin Templeton Funds ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนกว่า 30
กองในตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก
ผมเคยพบและพูดคุยกับ “ยูล บรินเนอร์” แห่ง วอลสตรีทคนนี้ตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนและบริหารการเงิน
ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องให้ข้อมูล
แก่นักลงทุนคล้าย ๆ กับ IR หรือนักลงทุนสัมพันธ์ในปัจจุบัน แต่เป็นช่วงเวลาย้อนหลังไปกว่า 20
ปีมาแล้ว ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า มาร์ก โมเบียส
เป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม
ในขณะนั้นเขายังไม่ดัง และยังไม่แก่
แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็คือ เขายังเฉียบคมเหมือนเดิม เช่นเดียวกับศีรษะที่ยังล้านเลี่ยนแบบ ยูล
บรีนเนอร์ ดาราฮอลลีวูดชื่อก้องโลก
ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผมจำความได้ โมเบียสไม่เคยห่างจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยเฉพาะประเทศไทย เขามา ๆ ไป ๆ
และผมเชื่อว่าเขารักเมืองไทยและเขาลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นอื่น
ๆ ในระยะหลัง ๆ เขามาพูดในเมืองไทยบ่อยขึ้น เมื่อเร็ว ๆ
นี้ก็ได้มาพูดที่สถาบันศศินทร์
ผมเองไม่ได้พบโมเบียสมานาน แต่รู้สึกได้ว่าเขายังคงแข็งแร็งคึกคัก
ยังสามารถทำงานหนักและเดินทางไปทั่วโลกทั้ง ๆ
ที่มีอายุ 73 ปีเข้าไปแล้ว
ประวัติคร่าว ๆ
ของ มาร์ก โมเบียส ก็คือ เขาจบปริญญาตรีและโททางด้านการสื่อสารจาก Boston University แต่ที่น่าทึ่งก็คือ ไปจบปริญญาเอกทางด้านเศรษฐศาสตร์จาก MIT
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ของโลกทางด้านเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ หลังจากนั้นเขาก็เข้าร่วมงานกับ เซอร์ จอห์น
เทมเปิลตัน ตำนานนักลงทุนผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ของโลก เกียรติประวัติสำคัญของ มาร์ก
โมเบียส ก็คือ
เขาได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในสิบนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในศตวรรษที่ยี่สิบจากนักลงทุนมืออาชีพ 300 คนที่ทำการสำรวจโดย Carson Group ในปี 1999
ลองมาดูกฏการลงทุนต่าง ๆ
ที่ มาร์ก โมเบียส ใช้
กฏเหล่านี้ผมดึงมาจากหนังสือที่เขาเขียนชื่อ Passport to Profits ซึ่งเขาเขียนถึงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในปี 1999
หรือ
สองปีหลังจากเกิดวิกฤติในเอเซียที่เริ่มจากประเทศไทย
กฎของโมเบียสข้อที่ 1.
การป้องกันที่ดีที่สุดของคุณก็คือ
การกระจายความเสี่ยงโดยการกระจายการลงทุน
กฎข้อที่ 2. ความผันผวนที่รุนแรงคือคุณสมบัติของตลาดหุ้นทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตลาดที่พัฒนาที่สุด กฎข้อที่ 5.
ถ้าคุณตัดปัจจัยเรื่องของอารมณ์ออกไปและกลยุทธ์ของคุณอิงอยู่กับพื้นฐานระยะยาวแล้ว
คุณจะสามารถชนะทั้งในช่วงตลาดหุ้นตกและตลาดหุ้นขึ้น กฎข้อที่ 7.
เวลาที่ย่ำแย่อาจจะเป็นเวลาที่ดี
กฎข้อที่ 9.
เมื่อข้อมูลที่จัดเตรียมโดยสถาบันระหว่างประเทศและรัฐบาลถูกเผยแพร่ออกมา ราคาหุ้นก็สะท้อนข่าวสารเหล่านั้นไปหมดแล้ว กฎข้อที่ 10.
ซื้อหุ้น “ดี” ในเวลาที่ “แย่” และซื้อหุ้น “แย่” ในเวลาที่
“ดี”
กฎข้อที่ 11.
เวลาที่คนคิดว่าเลวร้ายมักจะเป็นเวลาที่ดี กฎข้อที่
12. หุ้นที่คนคิดว่าแย่มักจะดี
กฎข้อที่ 14.
คุณภาพของผู้บริหารเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด กฎข้อที่
16.
การอดทนรอคอยให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
กฎข้อที่ 18.
เวลาที่คนมองโลกในแง่ร้ายที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะซื้อ กฎข้อที่
19.
เวลาที่คนมองโลกในแง่ดีที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะขาย กฎข้อที่ 20.
ถ้าคุณสามารถเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง
มันก็สายไปเสียแล้วที่จะซื้อ /images/emoticons/mozilla_yell.gifหรือขาย) กฎข้อที่ 22. ซื้อหุ้นเมื่อราคาลง ไม่ใช่ตอนขึ้น กฎข้อที่
23. ถ้าตลาดตกลงไป 20%
หรือมากกว่าจากจุดสูงสุดและเราเห็นคุณค่าของหุ้น ก็เริ่มทยอยซื้อได้ กฎข้อที่
24.
เวลารักษาความเจ็บป่วยได้เกือบทุกโรค
กฎของโมเบียสข้อที่
34.
ถ้าสินทรัพย์สุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นของบริษัทได้ตัวเลขสูงกว่าราคาหุ้นในตลาด คุณก็อาจพิจารณาได้ว่า มันคือหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าพื้นฐาน กฎข้อที่ 38. มองหาบริษัทระดับรองที่มี Market Cap. หรือมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมด
น้อย
แต่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
กฎข้อที่ 39. รอให้ตลาดหุ้นเกิด Panic
แล้วก็เข้าซื้ออย่างสงบเยือกเย็น กฎข้อที่
42. บ่อย ๆ ที่ภาพใหญ่ขัดแย้งกับภาพเล็ก กฎข้อที่
43.
โดยการศึกษาให้เข้าใจช่องว่างระหว่างภาพใหญ่และภาพเล็ก
คุณจะสามารถอยู่ในตำแหน่งที่นำหน้าฝูงชนได้ กฎข้อที่
45.
ตรวจสอบดูพอร์ตของตนเองอย่างละเอียด
หาหุ้นทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมากกว่า
100%
ในเวลาหนึ่งปีหรือน้อยกว่านั้นที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นไม่มากเท่า และการคาดการณ์ในอนาคต 5
ปีข้างหน้าก็ไม่ดี พิจารณาขายหุ้นเหล่านั้นทิ้งเสีย กฎข้อที่
46.
อย่ารักษาผลการลงทุนที่ดีเยี่ยมโดยการถือหุ้นบลูชิพตัวเก่าที่ไม่เป็นบลูชิพอีกต่อไปแล้ว กฎข้อที่
47.
หากลุ่มหุ้นบลูชิพล็อตต่อไปก่อนที่มันจะเริ่มเป็นหุ้นบลูชิพ
และทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงบางส่วนของกฎของโมเบียสที่ประยุกต์ใช้กับตลาดเกิดใหม่ต่าง
ๆ ทั่วโลก ประสบการณ์
ที่ยาวนานผ่านร้อนผ่านหนาวมามากคงทำให้โมเบียสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตลาด
หุ้นมากมายและทำให้เขาสามารถฉกฉวยโอกาสสำคัญครั้งแล้วครั้งเล่าโดยเฉพาะใน
ช่วงที่เกิดวิกฤติตลาดหุ้นและการฟื้นตัวของมัน
ตัวอย่างที่เราเห็นก็อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา
โมเบียสได้ให้สัมภาษณ์และบอกอย่างชัดเจนว่า
เขาคิดว่าตลาดหุ้นกำลังจะบูมโดยเฉพาะในครั้งนี้จะนำโดยตลาดหุ้นเกิดใหม่ และแล้วตลาดหุ้นก็บูมจริง ๆ
และโมเบียสก็คงสามารถทำกำไรได้อย่างงดงามหลังจากที่เขาบาดเจ็บอย่างหนักก่อนหน้านั้น
และนี่อาจจะเป็นอย่างที่เขาพูดไว้ในกฎของโมเบียสข้อที่ 70.
ที่ว่า ในบางครั้งคุณอาจจะต้องทำได้แย่กว่าดัชนีตลาดหุ้นเพื่อที่ว่าคุณจะสามารถเอาชนะมันในอนาคต
25 พฤษภาคม
2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น