วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ลงทุนแบบผู้หญิง



ความแตกต่างในการลงทุนระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงนั้นมีการพูดถึงกันอยู่เรื่อย ๆ   ในสังคมไทยเรานั้นดูเหมือนจะมีการยอมรับกันพอสมควรว่าผู้ชายนั้นเป็นนักลงทุนที่ดีกว่าโดยมีเหตุผลหลาย ๆ  อย่าง  เช่น  ผู้ชายตัดสินใจได้  เด็ดขาด”  กว่า  ไม่  ลังเล”  แบบผู้หญิง   ผู้ชายกล้าได้กล้าเสียกว่า  ผู้ชายมีความมั่นใจในตนเองสูงกว่า   ผู้ชายฟังคนอื่นน้อยกว่า  และผู้ชายเก่งกว่าในด้านของตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ  มากกว่า  เหล่านี้ เป็นต้น  ด้วยความคิดนี้  ประกอบกับการที่คนมองเห็นแต่  เซียนหุ้น”  ที่เป็นผู้ชายเสียเป็นส่วนใหญ่   ทำให้ การลงทุนแบบผู้หญิงนั้น  เป็นวิธีการลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพ  เป็นการลงทุนที่พึงหลีกเลี่ยงถ้าไม่อยากขาดทุนหรือไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน  แต่ทั้งหมดที่พูดถึงนี้เป็นความคิดของคนไทยที่โลกของการลงทุนยังถูกครอบงำโดยบุรุษเพศ

ในต่างประเทศมีการศึกษาเรื่องจิตวิทยาของผู้หญิงกับการลงทุนมากมายและพบว่าสิ่งที่คนไทยจำนวนมากอาจจะคิดนั้นไม่เป็นจริง  การลงทุนแบบ ผู้หญิงนั้น  เขาพบว่าเป็นวิธีการลงทุนที่เหนือกว่าการลงทุนแบบ ผู้ชาย”   และสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ชาย  แพ้”  นั้น  มีสาเหตุสำคัญหลาย ๆ  อย่าง  เรื่องหนึ่งก็คือ  ผู้ชายนั้นมีความมั่นใจในตนเองสูงเกินไปและสำคัญตนเองผิดว่าตนเองมีความเก่งเหนือกว่าคนอื่นโดยเฉลี่ย   นี่ทำให้ผมนึกถึงการศึกษาที่ให้คนจัดเกรดตนเองว่าขับรถได้ดีแค่ไหน   ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่มีความเห็นว่าตนเองขับรถได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยซึ่งในทางทฤษฎีแล้วเป็นไปไม่ได้  เพราะความเป็นจริงก็คือ  จะต้องมีคนครึ่งหนึ่งที่ขับรถดีกว่าค่าเฉลี่ย  และอีกครึ่งหนึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย  เรามาลองดูกันว่าการศึกษาเรื่องการลงทุนระหว่าผู้หญิงกับผู้ชายเป็นอย่างไร

การศึกษาในตลาดสหรัฐอเมริกาพบว่า  ผู้หญิงมีการซื้อขายหุ้นบ่อยน้อยกว่าผู้ชาย  นั่นแปลว่าผู้หญิงถือหุ้นยาวกว่าผู้ชาย  นี่คงเป็นเรื่องของการตัดสินใจที่ผู้ชายมักจะทำเร็วและเด็ดขาดกว่า   แต่การซื้อ ๆ  ขาย ๆ  หุ้นบ่อยนั้น  ทำให้เกิดค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายสูง  นอกจากนั้นการ  ขาดทุน”  จากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขายก็มักจะ  กินกำไร”  ที่ควรจะได้ไปไม่น้อย   ยิ่งในตลาดอเมริกาที่ต้องเสียภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้นด้วยก็ยิ่งทำให้ผลตอบแทนของผู้ชายลดลงเมื่อเทียบกับผู้หญิง

คุณสมบัติข้อต่อมาของผู้หญิงก็คือ  ผู้หญิงมักกลัวความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย  ดังนั้น  คนที่ลงทุนแบบผู้หญิงก็มักจะต้องการ  Margin of Safety หรือส่วนต่างเผื่อความปลอดภัยสูงกว่า  นี่ก็เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่จะทำให้การลงทุนแบบผู้หญิงเหนือกว่าการลงทุนแบบที่  กล้าได้กล้าเสีย”  แบบผู้ชาย  จริงอยู่  การลงทุนแบบที่กล้าเสี่ยงมาก ๆ  เช่น  การลงทุนในหุ้นที่ผันผวนมากหรือการใช้มาร์จินซื้อหุ้นเหล่านี้  อาจทำให้นักลงทุนแบบผู้ชาย  รวยไปเลย”  แต่หลายคนที่ผิดพลาดก็  จนไปเลย”  มองในแง่ค่าเฉลี่ยระยะยาวแล้ว  การลงทุนที่เน้นความปลอดภัยสูงน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

ผู้หญิงนั้นจะมองโลกในแง่ที่ดีน้อยกว่าผู้ชาย  ผู้หญิงมองโลกในแง่ที่เป็นจริงมากกว่า  ดังนั้น  เวลาที่ตลาดสดใสมาก  ผู้หญิงก็จะไม่  ฝันเฟื่อง”  มากเท่าผู้ชาย   เช่นเดียวกัน  เวลาที่ตลาดเลวร้าย  ผู้หญิงก็มักจะไม่ หดหู่เท่าผู้ชาย   มองในแง่นี้  ผู้หญิงก็จะไม่เป็น  เหยื่ออารมณ์ของ  นายตลาด”  เท่าผู้ชาย   พูดง่าย ๆ   ผู้หญิงจะไม่ซื้อขายตามภาวะตลาดมากเท่าผู้ชาย  ซึ่งมักทำให้ผู้หญิงมีแนวโน้มน้อยกว่าผู้ชายที่จะซื้อตอนตลาดแพงและขายตอนตลาดถูก

ผู้หญิงมีความละเอียดลออมากกว่าผู้ชายในเรื่องของการศึกษาหาข้อมูลเพื่อการลงทุน  การ คิดแล้ว คิดอีก”  “อ่านแล้ว อ่านอีก”  จนมั่นใจว่าไม่พลาดแน่นั้น  เป็นวิธีการลงทุนระยะยาวที่ดีกว่าการรีบตัดสินใจซื้อขายโดยที่ยังไม่ได้ศึกษาอย่างรอบคอบ  ดังนั้น  นิสัยผู้หญิงแบบนี้จึงเป็นนิสัยการลงทุนที่น่าจะประสบความสำเร็จสูงกว่านิสัยแบบผู้ชายที่มักเอาเร็วเข้าว่า

ผู้ชายมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงกว่าผู้หญิง  ผู้ชายมักเชื่อว่าตนเอง  รู้หรือมีความรู้ในเรื่องต่าง ๆ มากว่าที่เป็นจริง  ในขณะที่ผู้หญิงนั้น  มักยอมรับว่าพวกเธอรู้เรื่องอะไรบ้าง  และเรื่องอะไรที่ไม่รู้   มองในแง่นี้  ผู้ชายก็อาจจะมีแนวโน้มลงทุนในสิ่งที่ตนเองไม่รู้มากกว่าผู้หญิง  การลงทุนในสิ่งที่ตนเองคิดว่ารู้ดีแต่จริง ๆ  แล้วตนเองไม่รู้นั้น  ย่อมมีอันตรายสูง  ดังนั้น  การลงทุนแบบผู้หญิงในแง่นี้ก็น่าจะมีความปลอดภัยสูงกว่า  และนั่นย่อมหมายความว่าผลตอบแทนในระยะยาวน่าจะต้องดีกว่า

ผู้หญิงเรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าผู้ชาย  พูดง่าย ๆ  ผู้หญิง  เจ็บแล้วจำ”  มากกว่าผู้ชาย  นี่ก็เป็นคุณสมบัติที่ดีในการลงทุน  เพราะการลงทุนนั้น  บ่อยครั้งมากที่เรามักจะทำผิด  ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า”  อาจจะเนื่องจาก  ความโลภ”  ที่อยากจะได้กำไรสูง  ทำให้ลืมบทเรียนความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็คิดว่าครั้งนี้  ไม่เหมือนเดิม

สุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ  ผู้หญิงนั้นมักจะเปรียบเทียบตนเองกับเพื่อน  หรืออยู่ใต้อิทธิพลของเพื่อน  น้อยกว่าผู้ชาย  พูดง่าย ๆ  ผู้ชายนั้น  เวลาตัดสินใจอะไร   ถ้ามีเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานจับตาดูอยู่  เขาก็จะมี  แรงกดดัน”  มากกว่าผู้หญิงที่จะต้องทำตามแนวทางของกลุ่ม  ตัวอย่างเช่น  ถ้าเขารู้ว่าผลตอบแทนการลงทุนของเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานกำลังโดดเด่นมากเนื่องจากพวกเขากำลังเล่นหรือลงทุนในหุ้นบางกลุ่มในภาวะตลาดที่กำลังร้อนแรง  ก็ยากที่ผู้ชายจะอยู่ นิ่งเฉย”    ไม่ยอมเปลี่ยนแนวทางการลงทุนของตนเองและยอมรับผลตอบแทนที่ต่ำกว่า  มองในแง่นี้  การลงทุนแบบผู้หญิงก็น่าจะมีหลักการที่มั่นคงและเป็นสิ่งที่ตนเองมีความชำนาญมากกว่า  นอกจากนั้น  ผู้หญิงก็น่าจะมีการตัดสินใจที่อิสระมากกว่าผู้ชาย

ผลการลงทุนของผู้หญิงโดยทั่วไปในอเมริกานั้น  เนื่องจากมีการซื้อขายหุ้นน้อยกว่า  นั่นอาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผลตอบแทนดีกว่าผู้ชาย  แต่ในด้านของมืออาชีพที่บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ต้องอาศัยฝีมือและอารมณ์ขั้นสูงสุดนั้น  ก็พบว่าผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ที่เป็นผู้หญิงก็สามารถสร้างผลงานเฉลี่ยที่ดีกว่าผู้ชาย  รวมถึงผลตอบแทนก็สม่ำเสมอกว่าผู้บริหารชาย  ที่สำคัญ  ในยามที่ตลาดเลวร้ายมากนั้น  ผลตอบแทนของผู้บริหารหญิงจะเลวร้ายน้อยกว่าของผู้บริหารชายมาก

หลายคนยังอาจจะสงสัยว่าทำไมนักลงทุนเอกของโลกที่สร้างผลตอบแทนระยะยาวได้สูงมากอย่างวอเร็น บัฟเฟตต์  ปีเตอร์ ลินช์ และอีกหลาย ๆ คนจึงมีแต่ผู้ชาย  แล้วจะบอกได้อย่างไรว่าการลงทุน  แบบผู้หญิงนั้น  มีประสิทธิภาพเหนือกว่า?   ประเด็นนี้  คำตอบน่าจะมีได้สองทาง  ทางแรกก็คือ  การลงทุนแบบผู้ชายนั้น  มีความผันผวนสูงมาก    คนที่ทำได้ดีก็ดีมาก ๆ  แต่คนที่ทำได้แย่  ผลงานก็ ตกเหวไปเลย  โดยค่าเฉลี่ยก็ต่ำกว่าการลงทุนของผู้หญิง  คำอธิบายอีกทางหนึ่งก็คือ  วอเร็น บัฟเฟตต์  หรือเซียนหุ้นที่ประสบความสำเร็จระดับโลกที่เป็นผู้ชายนั้น  แท้ที่จริงแล้ว  เขาใช้แนวทางการลงทุนแบบ  ผู้หญิง”  ส่วนการที่ยังไม่มีผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็น เซียนระดับโลก”  นั้น   อาจจะเป็นเรื่องของ เวลา”  ก็ได้  เหนือสิ่งอื่นใด  ผู้หญิงเพิ่งจะก้าวเข้ามาในโลกของการลงทุนไม่นานนัก  ในอนาคต  เราอาจจะได้เห็นเซียนที่เป็นผู้หญิงก็ได้  นี่รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ผมคิดว่าในที่สุดก็จะต้องมี เซียนหุ้นหญิงเหมือนกัน     
     
26  กรกฎาคม  2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น